พอสิ้นปีโควิดเริ่มซาลง ผู้ประกอบการกาละแมก็ติดต่อแม่มาว่า กิจการกะละแมเริ่มกลับคึกคักอีกครั้งแล้ว ให้เตรียมใบตองรีดให้ด้วย ซึ่งในตอนนั้นแม่แขกเองก็โล่งใจที่ใบตองที่รีดเก็บไว้ช่วงโควิดในที่สุดก็ขายออกไปได้ จากนั้นผู้ประกอบการกะละแมทั่วเมืองนครพนมก็ตรงมาที่บ้านแม่แขกไม่ขาดสาย
![](https://static.wixstatic.com/media/eac6a3_756e00ab09354d38804023cb772fb684~mv2.jpg/v1/fill/w_147,h_98,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/eac6a3_756e00ab09354d38804023cb772fb684~mv2.jpg)
แม่แขกนักรีดใบตองเบอร์ต้น
เมื่อว่างจากฤดูทำนาแม่ต้องการอาชีพเสริมสร้างรายได้จึงไปหัดรีดใบตองกับน้องสาว พอทำได้ก็เริ่มออกขายตามร้านผลิตกาละแมในตัวเมือง ซึ่งในช่วงแรกก็จะถูกร้านตำหนิเรื่องคุณภาพ แม่จึงถอดใจกลับไปหางานทำที่กรุงเทพ จนกระทั่งผ่านมา 10 ปี จึงกลับมารื้อฟื้นทักษะการรีดใบตองอีกครั้ง ฝึกฝน พลิกแพลง จากเดิมมีเตารีดใบตองเพียง 9 ใบ ปัจจุบันตอนนี้มีเตารีดใบตองมีถึง 32 ตัว
ช่วงโควิดใบตองสดล้นตลาด ช่วงโควิดร้านกะละแมต่างก็หยุดการผลิตลง คนรีดใบตองต้องพลอยหยุดการผลิตไปด้วย จึงทำให้ใบตองสดล้นตลาด ในขณะนั้นยังมีแม่แขกคนเดียวที่ยังรีดใบตองอยู่ รถขายใบตองสดจากจังหวัดเลยเองก็ยอมขนใบตองลงโดยที่ยังไม่เก็บเงินเพราะไม่ใครรับซื้อและไม่อยากขนกลับ เมื่อผลิตได้เป็นจำนวนมาก ก็พยายามหาวิธีเก็บรักษาใบต้องที่รีดเอาไว้ โดยสังเกตุว่าเมื่อเก็บใบตองที่รีดแล้วไว้ในถุงดำจะทำให้คงสีที่สดใสและกลิ่นหอมเอาไว้ได้ พอสิ้นปีโควิดเริ่มซาลง ผู้ประกอบการกาละแมก็ติดต่อแม่มาว่า กิจการกะละแมเริ่มกลับคึกคักอีกครั้งแล้ว ให้เตรียมใบตองรีดให้ด้วย ซึ่งในตอนนั้นแม่แขกเองก็โล่งใจที่ใบตองที่รีดเก็บไว้ช่วงโควิดในที่สุดก็ขายออกไปได้ จากนั้นผู้ประกอบการกะละแมทั่วเมืองนครพนมก็ตรงมาที่บ้านแม่แขกไม่ขาดสาย
เคล็ดลับความหอม เริ่มจากก็ปลูกกล้วยพันธุ์น้ำว้าและกล้วยตานีซึ่งเมื่อนำใบมารีดจะให้ความหอมเป็นพิเศษกว่ากล้วยสายพันธุ์อื่นๆ พออายุได้หนึ่งปีก็สามารถเก็บเกี่ยวใบตองมารีด เมื่อได้ใบตองแล้วกลีดเอาก้านออกนำใบมาบ่มเอาไว้หนึ่งคืน จากนั้นจึงนำมาฉีกให้พอดีแบบที่จะรีดแล้วนำมาเฉือนส่วนที่ไม่ได้ใช้ออกตามพิมพ์ที่เตรียมเอาไว้ จากนั้นก็พักไว้หนึ่งคืนเพื่อให้ใบตองสลดลงอีกก่อนจะนำไปรีดให้หอมพอดี แล้วจึงนำไปจัดเก็บเตรียมส่งขายต่อไป
คุณราตรี สีนอ
ผู้ประกอบการรีดใบตอง